เปรียบเทียบรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ดีเซล

เครื่องยนต์ของรถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) แบ่งเป็น “รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า” และ “รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล” แม้ว่าทั้งสองจะใช้งานยกสินค้าได้เหมือนกัน ความแตกต่างคือ “ความเหมาะสม” สำหรับงานที่ทำ บทความนี้เปรียบเทียบระหว่างรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าและดีเซล

ข้อดีและข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

รถ Forklift ไฟฟ้า เหมาะสำหรับงานภายในอาคาร แต่ข้อเสียของรถประเภทนี้คือ ไม่เหมาะกับงานนอกอาคารที่มีแดดหรือพื้นผิวขรุขระ, แรงในการยกสินค้าน้อยกว่า, ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการติดตั้งสูงกว่า ข้อดีคือ ไม่มีมลพิษจากควันท่อไอเสีย, เสียงรบกวนน้อยกว่า และประหยัดพลังงานในอนาคต เป็นตัวเลือกสำหรับโรงงานที่ต้องการมาตรฐานระดับสากล

ปัจจุบันแบตเตอรี่ (Battery) สำหรับรถโฟล์คลิฟท์แบ่งเป็นแบตเตอรี่ Water Lead (Lead Acid) และแบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium Ion) ความแตกต่างคือ “ราคา” และ “การดูแลรักษา”

Lithium Battery (หรือ Li-Ion) เป็นนวัตกรรมใหม่ต่อยอดจากแบตเตอรี่สมัยก่อน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม “น้อยกว่า” และ “การรักษาง่ายกว่า” แม้ว่าอดีตแบตฯประเภทนี้มีความนิยมน้อยเพราะราคาสูง ปัจจุบันการพัฒนาทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงและมีตัวเลือกใหม่ที่ถูกกว่า ตัวอย่างรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ลิเธียม (Li-Ion) ใหม่ และ รถโฟล์คลิฟท์ Lead Acid

โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าเหมาะกับธุรกิจแบบไหน?

จากประสบการณ์ขายและปล่อยเช่า รถฟอร์คลิฟท์ประเภทนี้มักใช้ในธุรกิจผลิตอาหาร เครื่องสำอางค์ และโรงงานยาที่ต้องการความสะอาดและเป็นสถานที่ปิด

ข้อดีและข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

รถ Forklift ดีเซล คือรถแบบดังเดิมมีพัฒนาการเครื่องยนต์มาอย่างยาวนาน แม้ว่าข้อเสียคือ มีเสียงดังระหว่างทำงาน, มีควันมลพิษไม่เหมาะกับสถานที่ปิดหรือที่ต้องการความสะอาด,

โฟล์คลิฟท์ดีเซลเหมาะกับธุรกิจแบบไหน?

จากประสบการณ์จำหน่ายรถฟอร์คลิฟท์ เครื่องยนต์ดีเซลเหมาะสำหรับธุรกิจก่อสร้าง บริษัทขนส่ง ล้งผลไม้ ที่เป็นงานนอกอาคาร

ตารางเปรียบเทียบเลือกประเภทรถโฟล์คลิฟท์สำหรับธุรกิจ

คุณสมบัติ	โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า	โฟล์คลิฟท์ดีเซล
ความเงียบ	เงียบกว่าฟอร์คลิฟท์เครื่องยนต์	มีเสียงดัง
มลพิษ	น้อยกว่า	สูงกว่า
สถานที่	สถานที่ปิด พื้นผิวเรียบ	สถานที่เปิด พื้นผิวทั้งเรียบและขรุขระ
แรงยก	กำลังน้อยกว่า	กำลังสูง เช่น 7 ตัน
การรักษา	การรักษาง่ายกว่า แต่ยังไม่มีผลวิจัยระยะยาว	หาอะไหล่เปลี่ยนง่ายและถูกกว่า